เสน่ห์ของแพทย์แผนจีน

%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%88%e0%b8%b5%e0%b8%99-1

 

หลายท่านอาจเคยสงสัยและสนใจเกี่ยวกับแพทย์แผนจีน ว่าจริงๆแล้วแพทย์แผนจีนเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วแพทย์แผนจีนนั้นแต่ต่างจากแพทย์แผนอื่นๆ อย่างไหร่ วันนี้เราจะมาพูดคุยกันในเรื่องนี้กันครับ
แพทย์แผนจีนนั้นมีมานานตั้งแต่สมัยโบราณสืบทอดนานหลายพันปีและได้หลอมรวมเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมของชนชาติจีน แพทย์แผนโบราณของจีนใช้หลักการ “หยิน หยาง” และธาตุทั้งห้าเป็นทฤษฎีพื้นฐาน และการวินิจฉัยโรคนั้นมี 4 วิธี คือ “วั่ง” (การมอง) “เหวิน” (การฟังและสูดดม) “เวิ่น” (การถาม) และ “เชี่ย” (การจับแมะหรือการจับชีพจร) ซึ่งจะแตกต่างจากการวินิจฉัยแพทย์แผนอื่นๆ เช่น
การวินิจฉัยแพทย์แผนไทยนั้นมีด้วยกัน 3 แนวทาง คือ

– การวินิจฉัยตามสมุฏฐานธาตุทั้ง 4 ประการ

– การวินิจฉัยตามสมุฏฐานเบญจอินทรีย์

– การวินิจฉัยตามพระคัมภีร์ และหมอสมมติ

ซึ้งรายละเอียดต่างๆ ก็จะแตกแขนงแยกย่อยออกไป นี้เป็นเพียงการยกตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น

ปัจจุบันการแพทย์และยาแผนจีนได้รับการพัฒนาอยู่ต่อเนื่องและแพร่หลายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในประเทศไทยเราก็คงจะคุ้นเคยกับแพทย์แผนจีนนี้อยู่บ้าง ศาสตร์แขนงหนึ่งของแพทย์แผนจีนก็คือ การฝังเข็ม การฝังเข็มเป็นเวชกรรมที่มีมานานเป็นเวลาหลายพันปีในประเทศจีน และปัจจุบันก็ได้รับความนิยมในการรักษาของผู้ป่วย การฝั่งเข็มจะใช้เข็มที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กกว่าเข็มฉีดยา จึงทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ

โรคที่จะใช้การฝังเข็มรักษานั้นก็จะมี โรคซึมเศร้า วิตกกังวล นอนไม่หลับ ปวดศีรษะจากความเครียด ปวดไมเกรน อัมพาต อัมพฤกษ์ โรคภูมิแพ้ หืดหอบ และผื่นคันตามร่างกาย ฯลฯ ที่กล่าวมานี้หลายท่านก็คงจะเห็นได้ว่านี้เป็นเพียงหนึ่งภูมิปัญญาของบรรพบุรุษของคนจีนที่คิดค้นและเป็นศาสตร์ที่มามีความเป็นมาถึงทุกวันนี้

ส่วนใครที่อยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับแพทย์แผนจีนและหลงรักเสน่ห์ความเป็นอัตลักษณ์ของแพทย์แผนจีน ในประเทศไทยก็มีสถาบันหลายสถาบันที่เปิดการเรียนรู้ให้เราได้เข้าไปเรียนแพทย์ที่จีน ร่วมถึงบริษัทที่ให้บริการแนะแนวไปเรียนต่อที่ประเทศจีนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่อยากจะไปเรียนรู้และได้ประสบการณ์ใหม่ๆ

This entry was posted in การทำธุรกิจ and tagged , . Bookmark the permalink.

Comments are closed.